Wednesday, 22 March 2023

วงการ กีฬาจีน สู่อุตสาหกรรมโลก ฟุตบอลโลก

งวดเข้ามาทุกทีสำหรับแชมป์ ฟุตบอลโลก “กาตาร์ 2022” ที่เต็มไปด้วยความ “พลิกล็อก” แต่ก็เป็นเสน่ห์ให้ผู้คนอยากติดตามชมการแข่งขันกันมากขึ้น …

การเป็นเจ้าภาพของกาตาร์ในครั้งนี้ต้อง ฟันฝ่ายอุปสรรค และความท้าทาย ไล่ตั้งแต่หลังการได้รับการ เลือกเป็นเจ้าภาพ ที่มีกลิ่น “เงินใต้โต๊ะ” โชยมาแรง จนกระทั่งทำเอากาตาร์ ถูกครหา และคณะผู้บริหารระดับที่ถือว่าสูง และเจ้าหน้าที่ของฟีฟ่า (FIFA) ซึ่งเป็นองค์กรจัดงานหลัก โดนซักถามในคดีรับสินบน กันมากมาย

ขณะเดียวกัน ช่วงเวลาของการแข่งขันที่ แตกต่างไปจากธรรมเนียมเดิม ที่ปกติจัดในช่วงกลางปี มาเป็นช่วงปลายปีเพื่อหลีกเลี่ยงสภาพอากาศที่ร้อนระอุ ในกาตาร์ในช่วงฤดูร้อน ก็กลายเป็นประเด็นใหญ่ที่สร้างความไม่พอใจกับลีกฟุตบอลของหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่างยิ่งในยุโรป ที่ต้องปรับเปลี่ยนตารางครั้งใหญ่

หลายลีกดัง ในยุโรปที่เริ่มเปิดฤดูกาลไปในระยะแรก ก็มีนักเตะบาดเจ็บจำนวนมากและ พลาดโอกาสในการร่วม แสดงฝีเท้าที่กาตาร์ในครั้งนี้ ขณะที่นักฟุตบอลบางส่วนที่ทีมของตนเข้ารอบลึกก็กังวลใจกับอาการ บาดเจ็บ มากขึ้นหลัง จบการแข่งขันฟุบอลโลก เพราะว่าต้องไปฝ่า ฟุตบอลลีกกันต่อแบบไม่ได้ “พักน่อง” กัน

ขณะเดียวกัน โดยที่กาตาร์ มีอิสลามเป็น ศาสนาประจำชาติ ทำให้มีข้อกฎหมายและธรรมเนียม ปฏิบัติของท้องถิ่น ที่แตกต่างและเข้มงวดกว่าของหลายประเทศ ส่งผลให้ผู้ส่งเสริมและสนับนุนการแข่งขันบางรายก็สูญเสียโอกาสในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของตนที่ขัดกับหลักศาสนา อาทิ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ขณะที่แฟนบอลที่คุ้นเคยกับการ “ซดเบียร์ เชียร์บอล” ก็อาจรู้สึกเสียอารมณ์ไปบ้าง

ยิ่งกว่านั้น เจ้าภาพยังโดนข้อครหา เกี่ยวกับประเด็นสิทธิ มนุษยชน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือ กลุ่มคน LGBTQ รวมทั้งแรงงาน ต่างชาติ ที่เข้ามาทำงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยว ข้องในกาตาร์ ซึ่งนำไปสู่การบาดเจ็บและเสียชีวิตของแรงงานนับพันคนอีกด้วย

อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นความท้าทายใหญ่ ของเจ้าภาพก็คือ การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในช่วง 3 ปีหลัง ส่งผลให้การจัดการแข่งขัน “อยู่บนเส้นด้าย” และขาดความแน่นอนอยู่นาน โดยก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์หลายคนยังเกรงว่ากาตาร์จะเจอ “โรคเลื่อน” หรือจำต้องจัดการแข่งขันใน “ระบบปิด” เลยก็มี

ถ้าจำความกันได้ การแข่งขันโอลิมปิก ฤดูร้อนที่โตเกียว และโอลิมปิกฤดูหนาว ที่เมืองปักกิ่ง ซึ่งนับว่าเป็นกิจกรรมด้านกีฬาใหญ่ที่ถูก จัดไปก่อนหน้าที่ผ่านมา จำเป็นต้องต้องจัดการแข่งขันแบบ “ระบบปิด” ที่เกือบไม่มีคนดูในสนาม ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวท้องถิ่นและต่างชาติไม่อาจเดินทางไปร่วมชมการแข่งขันได้ ส่งผลให้การจัดการ แข่งขันลดสีสันและความน่าสนใจไปมาก แถมผู้จัดงานยังสูญเสีย รายได้และโอกาสทางเศรษฐกิจอื่นเป็นจำนวนมหาศาล

ถึงแม้กระทั่งแขกรับเชิญพิเศษของไทย ท่านหนึ่งที่เดินทางไปร่วมงานที่กรุงปักกิ่งก็ยังบ่นว่า การเข้าร่วมงานในคราวนั้น “ไม่สามารถกระดิกตัวไปไหนได้เลย” โดยใช้เวลาทั้งหมดอยู่ที่โรงแรมที่พักและสนามแข่งขันเท่านั้น ขนาดจะขอแวะเข้าห้องอาบน้ำระหว่างทาง ก็ยังทำไม่ได้ ทำให้ไม่อาจซึมซับ ความงดงามของบ้านเมืองและการต้อนรับของเจ้าภาพได้ดีเท่าที่ควร

กาตาร์ 2022

แต่เมื่อ ฟุตบอลโลก ครั้งนี้ใกล้เข้ามา

กาตาร์ก็ดูจะ “มากับดวง” กล่าวคือ เชื้อโควิดอ่อนกำลังลงในช่วงหลัง ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกมีมุมมอง “ที่ต้องอยู่กับโควิด” ทำให้เริ่มคลายล็อก และเปิดให้มีการเดินทางระหว่าง ประเทศกันจนกระทั่งเกือบเป็นปกติ แถม “กาตาร์ 2022” ก็ยังเป็นกิจกรรมใหญ่แรกในยุคหลังโควิด

เว้นเสียแต่การทุ่มเงินขยาย สนามบินระหว่างประเทศฮาหมัด (Hamad International Airport) รถไฟใต้ดิน สนามฟุตบอล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมพรั่งอย่างที่คุยกันไปเมื่อคราวก่อนแล้ว พวกเรายังได้เห็นความพยายามของกาตาร์ ในการสั่งสมประสบการณ์จัดการแข่งขันกีฬาระดับระหว่างประเทศมาอย่างตลอดในช่วงหลายปีหลัง อาทิ การจัดแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพ แฮนด์บอลล์ชายโลก และกรีฑาชิงแชมป์โลก

ด้วยจังหวะเวลาที่ดี ดังกล่าว การจัดเตรียมการจัดงาน ที่เยี่ยม และความมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างตั้งใจจริงของกาตาร์ ทำให้แฟนบอลที่รอรอเวลามานาน ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

จนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ตั๋วนั่งชมฟุตบอลกว่า 3 ล้านใบได้ ถูกจำหน่ายล่วงหน้าไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่างยิ่งผู้คนในประเทศใกล้เคียงจากซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ รวมทั้งคอลูกหนังจากบราซิล อาร์เจนตินา สหรัฐฯ เม็กซิโก อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และโมร็อกโค ที่ทีมชาติของตนเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ใน วงการกีฬาประเมินว่า ฟีฟ่าจะมีรายได้จากการจัดการแข่งขันในครั้งนี้มากกว่าเมื่อคราวที่จัดขึ้นที่รัสเซียในครั้งก่อนถึง 5,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

จากข้อมูลดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า การเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกของกาตาร์ช่วยสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจในระยะสั้น อีกทั้งจากการลงทุนก่อสร้างและเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งสร้างงานใหม่ราว 1.5 ล้านตำแหน่ง

สำนักงาน ส่งเสริมการลงทุน แห่งกาตาร์ (Investment Promotion Agency of Qatar) เปิดเปิดเผยว่า นับแต่ปี 2010 ที่กาตาร์ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพ เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวในอัตราเฉลี่ย 4.5% ต่อปี ขณะที่กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ของกาตาร์ก็กล่าวว่า แม้ว่าจะต้องพบเจอกับวิกฤติโควิด ในช่วงหลายปีหลัง แต่โอกาสด้านการค้าและการลงทุนที่เกี่ยวกับการจัดแจงงานและการดำเนินการ จัดฟุตบอลโลกยาวไปจนถึงปี 2023 รวมจำนวน 83 โครงการ

ยิ่งกว่านั้น ยังมีสัญญาณเชิงบวกจากการมากขึ้นของโครงการลงทุน โดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่หลั่งไหลเข้าสู่กาตาร์ในหลากหลายสาขาธุรกิจ อาทิ บริการให้คำแนะนำทางธุรกิจ การโฆษณา การตลาด และด้านไอที อาทิ ซอฟท์แวร์ ระบบปฏิบัติการ และแอพพลิเคชั่น รวมทั้งฟินเทค และการท่องเที่ยว

อย่างเช่น เจ้าพ่อวงการดิจิตัลอย่างกูเกิ้ล (Google) เปิดสำนักงาน ท้องถิ่น คลาวด์ระดับภูมิภาค และศูนย์แห่งความเป็นเลิศ ขณะที่ไมโครซอฟท์ (Microsoft) เจ้าแห่งซอฟท์แวร์ ก็เปิดคลาวด์ระดับภูมิภาคและศูนย์นวัตกรรมเพื่อบริการลูกค้าท้องถิ่น

ไอไลฟ์ดิจิตัล (iLife Digital) จากสหรัฐฯ ลงทุนตั้งโรงงานผลิตส่วนประกอบอุปกรณ์ไอทีที่เขตฟรีโซนกาตาร์ ซึ่งจะทำให้เกิดการว่าจ้างแรงงาน 1,500 ตำแหน่ง ส่วนกลุ่มยูบีเอส (UBS Group) แห่งสวิตเซอร์แลนด์ ก็วางแผนจะเปิดศูนย์ธุรกิจครบวงจรแห่งใหม่ในกรุงโดฮา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อบริการการเงินดิจิตัลและการพัฒนาเด็กพรสวรรค์ในท้องถิ่น รวมทั้งจะดึงผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านดิจิตัล 200 คนเข้าไปในพื้นที่ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

ทำนองเดียวกันก็ขยายผลทางเศรษฐกิจต่อไปยังประเทศอื่นในตะวันออกกลาง ส่งผลให้สัดส่วน FDI ในภูมิภาคต่อโลกมากขึ้นจาก 5% เศษในปี 2019 เป็นกว่า 8% ในปี 2021

ฟุตบอลโลก กีฬาจีน

เมื่อการแข่งขันเริ่ม คิกออฟ

ก็นำไปสู่การขยายตัวของการท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง แบรนด์แฟรนไชส์โรงแรมชั้นแนวหน้าอย่างฮิลตัน (Hilton) มาร์ริออต (Marriott) และเซ็นทารา (Centara) ของไทยที่ได้เข้าไปลงทุนและขยายบริการในกาตาร์ในช่วงหลายปีหลัง ก็คาดว่าจะมีแฟนบอลจองหอพักเต็มตลอดการแข่งขัน

และมาถึงวันนี้ การเป็นเจ้าภาพของกาตาร์ก็ผ่านไปด้วยดี ได้รับความชื่นชมจากแขกรับเชิญพิเศษ แฟนบอล และสื่อมวลชนทั่วโลก ซึ่งจะช่วยทำให้ชาวโลกรู้จักกาตาร์มากขึ้น และเสริมสร้างชื่อเสียงผ่านการเป็นเจ้าภาพ “จัดงานใหญ่”

ประเทศในภูมิภาคต่างคาดหวังว่า “พลังละมุน” ในครั้งนี้จะ “{ทรงพลัง” และช่วยเพิ่มประโยชน์ทางเศรษฐกิจในระยะยาว หลายประเทศยังต้องการสร้าง “จุดขายใหม่” ในด้านธุรกิจบริการด้านการท่องเที่ยว การกีฬา และการรักษาพยาบาลในเวทีระหว่างประเทศเพื่อนำไปสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยจัดเตรียมสานต่อกระแสดังกล่าวผ่านกิจกรรมมากมาย

อาทิ อาบูดาบี บาห์เรน และซาอุดิอาระเบีย จัดเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันรถยนต์สูตร 1 (Formula One) ทัวร์นาเมนต์กอล์ฟระหว่างประเทศที่อาบูดีบี เทนนิสที่ดูไบ และอี-สปอร์ตในหลายประเทศในภูมิภาค โดยใช้สื่ออัล จาซีรา (Al Jazeera) ของกาตาร์ ที่พัฒนาขึ้นเป็นศูนย์กลางสื่อของโลกอาหรับช่วยประโคมข่าว

นักวิเคราะห์ของ PWC ยังประเมินไว้ว่า วงการกีฬาในตะวันออกกลางจะขยายตัวถึง 8.7% ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า เทียบกับอัตราเฉลี่ยของโลกที่ 3% ยิ่งกว่านั้น กาตาร์ยังจัดเตรียมสานต่อกระแสดังกล่าวผ่านการเป็นเจ้าภาพเอเชี่ยนเกมส์ในปี 2030 แต่ “การพนันครั้งใหญ่” ดังกล่าวจะเกิดคุ้มค่าการลงทุนและก่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจอื่นในระยะยาวหรือไม่ อย่างไร เป็นคำถามที่รอคำตอบ

ทีหน้าผมจะชักชวนคุยเรื่องการเป็นผู้ส่งเสริมและสนับนุน “กาตาร์ 2022” ของแบรนด์จีนที่ตามมาด้วย “ควันหลง” …